ประวัติการค้นพบไดโนเสาร์

ไดโนเสาร์ (อังกฤษ:dinosaur) คือสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนบกในมหายุคมีโสซิก คำว่าไดโนเสาร์คิดโดยเซอร์ริชาดโอเวน โดยรวมคำภาษาละติน 2 คำคือไดโนสซึ่งแปลว่าใหญ่จนน่าสะพรึงกลัว กับคำว่าซอโรสซึ่งแปลว่าสัตว์เลื้อยคลาน รวมแล้วแปลว่าสัตว์เลื้อยคลานที่ใหญ่จนน่าสะพรึงกลัว เราพบไดโนเสาร์ครั้งแรกเมื่อหลายพันปีมาแล้วโดยชาวจีนคิดว่าเป็นกระดูกของมังกร ส่วนชาวตะวันตกคิดว่าเป็นกระดูกของปีศาจ  และในปีค.ศ.1677การค้นพบที่มีการรายงานก็เกิดขึ้นเมื่อโรเบิรต์ พลอต พบฟอสซิลของไดโนเสาร์ แต่เพราะยุคนั้นยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องสัตว์ เขาจึงคิดว่าเป็นกระดูกของช้างที่ชาวโรมันนำมาที่อังกฤษ ส่วนการค้นพบไดโนเสาร์ที่ได้รับการตั้งชื่อครั้งแรกคือการค้นพบเมื่อปีค.ศ.1822 กิเดียน แมนเทลได้ค้นพบกระดูกขาของสัตว์ชนิดหนึ่ง เขาตั้งชื่อให้มันว่า อิกัวโนดอน เพราะฟันของมันเหมือนกับฟันของอิกัวนา และในปีค.ศ.1824วิลเลียม บักแลนด์ ได้ค้นพบเมกะโลซอรัส เมื่อเซอร์ริชาดเห็นฟอสซิลของทั้ง  2 ชนิด เลยเห็นความคล้ายคลึงของสัตว์ทั้ง 2 เขาจึงก็คำว่าไดโนซอร์ขึ้น มา ส่วนทางอเมริกาจึงเริ่มหาฟอสซิลไดโนเสาร์บ้าง การค้นพบร่องรอยครั้งเเรกในอเมริกาคือการค้นพบรอยเท้าของไดโนเสาร์เเต่ยังไม่ใช่การค้นพบที่ยิ่งใหญ่นัก ส่วนการค้นพบไดโนเสาร์ตัวเเรกในอเมริกาเกิดขึ้นในปีค.ศ.1858 โดยโจเซฟ ไลดีส์ เขาค้นพบฟอสวิลของไดโนเสาร์เเฮดโดรซอร์ ซึ่งมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ซากนี้ทำให้ความคิดเรื่องไดโนเสาร์เปลี่ยนไปจากที่มันเดิน 4 ขามันก็อาจเดิน 2 ขาได้เช่นกัน หลังจากนั้นชาวอเมริกาส่วนใหญ่เริ่มยกย่องบุกคนที่ค้นพบซากฟอสซิลที่สมบูรณ์ ทำให้มีหลายคนที่อยากมีชื่อเสียง เรื่องนี้ทำให้เอ็ดเวิร์ด ดริงเกอร์ โคป เเละโอทเนียท ชาร์ลส์ เเข็งกันว่าใครจะพบฟอสซิลมากกว่ากัน จนเกิดเป็นสงครามกระดูกขึ้นมา หลังจบสงครามกระดูกทั้งคู่พบไดโนเสาร์มากมายเช่นสเตโกซอรัส ไทรเซอราทอปส์ 
อัลโลซอรัส เเละอื่นๆรวม150พันธุ์ ในปัจจุบันนี้เรามีความรู้เรื่องไดโนเสาร์มากขี้นเเละมีโอกาศพบฟอสซิลมากขึ้น เเละเราก็รู้เเล้วว่าไดโนเสาร์ไม่ได้ล้มเหลว มันยังคงวิวัฒนาการต่อไปจนกลายเป็นสัตว์ที่เรียกว่า นก